ชัยชนะนอกบ้านครั้งแรกในรอบ 12 เกม ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

ชัยชนะนอกบ้านครั้งแรกในรอบ 12 เกม ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ชัยชนะนอกบ้านครั้งแรกในรอบ 12 เกม ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ชัยชนะนอกบ้านครั้งแรกในรอบ 12 เกม ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ชัยชนะนอกบ้านครั้งแรกในรอบ 12 เกม ซึ่งกินเวลาเกินกว่า 7 เดือน น่าจะทำให้แฟนผีพอยิ้มกันได้บ้าง และนี่ก็คือประเด็นหลากหลายจากทริปเยือนเซอร์เบีย

1 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ปรับ 7 ตำแหน่งตัวจริงจากศึกแดงเดือด โดยยังยึดระบบ 3 เซนเตอร์ที่มี แฮร์รี่ แม็กไกวร์ สวมปลอกแขนกัปตัน และ มาร์กอส โรโฮ

ยืนตำแหน่งเดิม แล้วใส่ ฟิล โจนส์ แทน วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และหน้าปากประตูให้ เซร์คิโอ โรเมโร่ เฝ้าเสาแทน ดาบิด เด เคอา วิงแบ็กฝั่งขวายังใช้

อารอน วาน-บิสซาก้า และกราบซ้ายเป็น แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ลงแทน แอชลีย์ ยัง ตรงกลาง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ประจำการเสาหลัก

แต่ก็ขยับขึ้นสูง และเยื้องไปทางซ้ายมากหน่อย ส่วนเจมส์ การ์เนอร์ ได้โอกาสลงแทน เฟร็ด โดยยืนต่ำสวมบทตัดเกมเต็มตัว ขณะที่ แนวรุก ฆวน มาต้า

พยายามวิ่งสลับไป มา เช่นเดียวกับ เจสซี่ ลินการ์ด และทาง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ยืนหอกเป้า

2 ท่ามกลางผลงานซีซั่นนี้ที่ป้อแป้สมควรโดนวิจารณ์ แต่ ปีศาจแดง แอบพกสถิติเหนียวแน่นมาเยือน เบลเกรด เมื่อไม่แพ้ในยูโรปา ลีก 13 เกมติดต่อกัน ชนะ 9 เสมอ 4

สำหรับครึ่งแรก เกมของ ยูไนเต็ด ดำเนินไปอย่างน่าอึดอัด เพราะหาช่องเจาะเจ้าถิ่นลำบาก โดยได้ลุ้นหนแรกจากลูกยิงหน้าเขตโทษแบบบดๆ ของ แม็คโทมิเนย์

และเกือบนำก่อนในจังหวะปั่นของ ลินการ์ด ที่โค้งชนเสา แต่ก็เกือบโดนเหมือนกันในชอตต่อเนื่องของ ยูมา ซาดิค ที่หวดไปชนเสา โดยทาง โรเมโร่ นั้นหมดสิทธิ์ไม่แล้ว

เช่นเดียวกับลูกยิงของ ทาคูมะ อาซาโนะ ตลอดทั้ง 45 นาทีแรก ปีศาจแดง ขึ้นเกมด้านขวาเป็นส่วนใหญ่ โดยฝั่งซ้าย วิลเลี่ยมส์ หนักไปทางแปะย้อนกลับหลัง

จนกระทั่งเห็นพื้นที่ข้างหน้าโล่ง เลยลองวัดสปีดกับ “โล้นซ่า” มิเลติช และลากไปพร้อมเหลี่ยมที่ได้เปรียบ ก่อนโดนเสียบคว่ำในกรอบ 18 หลา ซึ่งทาง มาร์กซิยาล ก็สังหารไม่พลาด

ประตูนี้เป็นความแตกต่างระหว่างสองทีม และทำให้ ยูไนเต็ด กลับมาลงครึ่งหลังด้วยสถานการณ์เหนือกว่าพอสมควรเลย

3 ความเปลี่ยนแปลงแรกหลัง ผีแดง ออกนำ 1-0 คือ โอเล่ สั่ง ให้ แม็คโทมิเนย์ ถอยมายืนรับต่ำคู่กับ การ์เนอร์ และไม่ต้องดิ้นรนขึ้นเติมรุกพร่ำเพรื่อ

ซึ่งรูปเกมในครึ่งหลังก็ยินดีที่จะโดนเจ้าถิ่นบุกใส่ แบบเกือบเสียเจียนอยู่เจียนไป แถมไม่ค่อยได้จังหวะสวนกลับหวาดเสียวอีกด้วย โรเมโร่ คืออีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ผี ซิวชัย

เพราะยืนตำแหน่งดี แม้ไม่หวือหวา แต่มั่นคงแน่นอน และรักษาคลีนชีตได้เป็นรางวัลตอบแทนความเหนียวแน่น

ชัยชนะนอกบ้านครั้งแรกในรอบ 12 เกม ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

4 พอแตะหลักหนึ่งชั่วโมง โซลชา ลงมือแก้เกมอีกครั้ง ด้วยการส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ แดเนียล เจมส์ ลงแทน มาร์กซิยาล และ วาน-บิสซาก้า

พร้อมแอบปรับระบบมาใช้แบ็กโฟร์ ด้วยการถ่าง โจนส์ ไปเล่นแบ็กขวา ส่วนที่เหลือเซนเตอร์เป็น แม็กไกวร์ คู่ โรโฮ และ วิลเลี่ยมส์ ยึดฝั่งซ้าย ซึ่งถือว่าโชคดีมากๆ ที่ไม่เสียจุดโทษ

จากจังหวะล่อแหลมแฮนด์บอลที่ไปบล็อกลูกโขกของโจทย์เก่า มิเลติช แรช ฉีกมาเล่นปีกซ้าย โดย โซลชา หวังใช้ความเร็วโจมตีเจ้าถิ่นที่ดันสูงพร้อมเสี่ยง แต่ก็ไม่มีโอกาสจะแจ้ง

เช่นเดียวกับ เจมส์ ทางขวา ส่วน ลินการ์ด กับบทบาทหน้าหลอก บอกเลยว่าโคตรทุเรศ ไม่ต่างจาก มาต้า ที่ม้วนถอยหลังอยู่ตลอด

5 โควตาสำรองสุดท้ายเป็น อันเดรียส เปเรยร่า ลงแทน การ์เนอร์ ที่เล่นได้พอใช้ มีผิดพลาดตามประสาวัยรุ่น แต่ก็ขยันขันแข็งกันดี ก็ต้องเพาะบ่มกระดูกบอล และสะสมประสบการณ์กันต่อไป

ส่วนที่เด่นน่าผลักดันคงหนีไม่พ้น แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ที่เล่นทั้งแบ็กซ้าย-ขวา และมีโอกาสแจ้งเกิดได้เต็มตัวเหมือนกัน

6 ผ่านไปครึ่งทาง 3 นัดเก็บ 7 แต้มก็ถือว่า ยูไนเต็ด หนทางสดใส สำหรับการเข้ารอบน็อกเอาต์ และยูโรปา ลีก แมตช์ต่อไปก็จะกลับเฝ้ารังรับมือ ปาร์ติซาน ถ้าย้ำชัยได้ก็จ่อคิวตีตั๋ว

หลังเสร็จภารกิจที่เบลเกรด โซลชา มีคิวนำทัพอสูรเยือนรังแคร์โรว์ โร้ด ของ นอริช ซิตี้ ซึ่งก็อาจจะยึดหมาก 3 เซนเตอร์ต่อไป

แต่มันเป็นแผนที่เน้นความรัดกุม แพ้ยาก และหากแนวรุกยังประหยัดยิงนัดละตุง ไอ้การจะชนะใคร มันก็แสนสาหัส และอึดอัดไม่รู้จบแบบนี้แหละ

อ่านเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับฟุตบอล :: ข่าวพรีเมียร์ลีก

ติดตามข่าวสารได้ที่ :: footballdaily365

This website was created for free with Own-Free-Website.com. Would you also like to have your own website?
Sign up for free